About Dr. Huang, Sung-Yen

Director, Department of Chinese Medicine, Changhua Christian Hospital

Script

สวัสดีทุกท่านครับ

ผมนายแพทย์หวงซงเหยียนจากแผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนครับ

วันนี้ผมจะมาบรรยายบทบาทของแพทย์แผนจีน

ในการดูแลผู้สูงอายุในไต้หวัน

ภาพนี้เป็นภาพที่เห็นได้บ่อยในสวนสาธารณะไต้หวัน

ทุกคนจะเห็นได้ว่า

ผู้ดูแลจะเข็นเก้าอี้วีลแชร์พาผู้สูงอายุมาเดิน มาพบปะเพื่อนๆที่สวนสาธารณะ

นี่เป็นปัญหาที่สังคมผู้สูงอายุของไต้หวันกำลังเผชิญอยู่

วันที่ 10 เมษายน ปี2018 กระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้ประกาศออกมาว่า

ประชากรที่อายุมากกว่า65ปีของไต้หวันมีอัตราส่วนมากกว่า14%แล้ว

นั่นหมายความว่าไต้หวันได้เป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการแล้ว

และประชากรผู้สูงอายุของไต้หวันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในสิบกว่าปีที่ผ่านมา ประชากรผู้สูงอายุของไต้หวันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ก่อนปี2018

อย่างปี1993 อัตราจำนวนผู้สูงอายุอยู่ที่7%

ปี2010 พุ่งสูงขึ้นแตะ11%

ปี2018 พุ่งสูงเกิน14%

ดังนั้นไต้หวันถือว่าได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว

ในอนาคตประชากรผู้สูงอายุไต้หวันจะยิ่งเพิ่มเร็วขึ้น

คาดการณ์ว่าปี2026จะพุ่งสูงขึ้นแตะ20%

เมื่อถึงตอนนั้นไต้หวันก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่สูงวัยมาก

แพทย์แผนจีน แพทย์แผนปัจจุบัน และทันตกรรม

เป็นแพทย์สามแขนงใหญ่ที่ให้บริการรักษาในไต้หวัน

ในอดีต

แพทย์แผนปัจจุบันมีส่วนสำคัญมากในการรักษาผู้สูงอายุ

ในอนาคตในสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุในไต้หวัน

แพทย์แผนจีนจะมีส่วนช่วยผู้สูงอายุได้อย่างไร

ในอดีตที่ผ่านมา

กรมแพทย์แผนจีนในกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ หรือก็คือ

คณะกรรมการยาแพทย์แผนจีนกรมอนานัยในอดีต

ได้ทำการวิจัยอย่างหนึ่ง

หลักๆก็คือการวิจัย

สถานการณ์การใช้ยาแพทย์แผนจีนของผู้สูงอายุก่อนปี2015

ในปี2010 วารสารการดูแลผู้สูงอายุไต้หวันได้ตีพิมพ์บทความหนึ่ง

เกี่ยวกับการวิเคราะห์การใช้แพทย์แผนจีนในระบบประกันสุขภาพของผู้สูงอายุ

งานวิจัยพบว่าประชากรอายุมากกว่า65ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือหญิง

อัตราการใช้แพทย์แผนจีน

จะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเทียบกับการใช้บริการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วจะพบว่า

ไม่ว่าเพศชายหรือหญิง อัตราการใช้แพทย์แผนปัจจุบัน

จะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

ส่วนแพทย์แผนจีนกลับตรงกันข้าม

ไม่ว่าเพศชายหรือเพศหญิง

ยิ่งอายุมากขึ้น อัตราการใช้แพทย์แผนจีน

ก็จะน้อยลงมากขึ้นตามนั้น

ปัญหานี้ ผู้เชี่ยวชาญในอดีตเคยวิเคราะห์สาเหตุ

แล้วได้ข้อสรุปว่า

นอกจาก

การที่อัตราการใช้แพทย์แผนจีนของผู้สูงวัยได้ลดลง

นอกจากจำนวนผู้สูงอายุในโครงสร้างประชากรจะลดลง

และจำนวนผู้สูงอายุที่ใช้บริการการรักษาโรคร้ายแรงฉับพลันเพิ่มสูงขึ้นแล้ว

ผู้สูงวัยอาจจะใช้บริการแพทย์แผนจีนน้อยลง

เพราะเดินเหินไม่สะดวก คมนาคมไม่สะดวกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญได้วิจัยหาสาเหตุที่ผู้สูงอายุ

ใช้บริการแพทย์แผนจีนลดลงโดยเฉพาะ

ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าสาเหตุอันดับหนึ่งคือ

ผู้สูงอายุไม่สามารถเดินเหินได้สะดวก

อย่างเช่น เขาอาจจะอยู่ในเขตห่างไกล เวลาที่ต้องหาหมอ

ต้องวานคนหนุ่มสาวช่วยพาไปโรงพยาบาลหรือคลินิก

และอาจจะเกี่ยวข้องกับการเสื่อมสมรรถภาพของผู้สูงอายุ

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้สูงอายุใช้บริการแพทย์แผนจีนลดลง

ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึงสาเหตุที่ผู้สูงอายุใช้บริการแพทย์แผนจีนลดลง

ผลการวิเคราะห์ก็คือ

นอกจากประชากรผู้สูงอายุไต้หวันได้ลดลงแล้ว

โรคร้ายแรงเฉียบพลันของผู้สูงอายุส่วนมากจะใช้แพทย์แผนปัจจุบันรักษา

ยิ่งไปกว่านั้นผู้สูงอายุอาจจะใช้บริการแพทย์แผนจีนน้อยลง

เพราะเดินเหินไม่สะดวก ไม่สามารถใช้งานคมนาคมได้ตามปกติ

ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า

ในอนาคตแผนกแพทย์แผนจีนควรส่งเสริมและขยายการบริการรักษาผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น

เพื่อตอบรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังมา

ต่อไปผมจะพูดถึงข้อดีและทรัพยากร

ของแพทย์แผนจีนและการดูแลผู้สูงอายุนะครับ

ในยุทธศาสตร์การแพทย์ดั้งเดิมปี2014-2023ที่องค์การอนามัยโลกประกาศออกมา

ได้แนะนำให้นำแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนดั้งเดิมใส่เข้าไปในบริการรักษาทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง

เพื่อที่จะสามารถให้การรักษาครอบคลุมประชาชนทุกคนในทุกประเทศได้

คำแนะนำต่อไปคือในสภาวะการเงินโลกฝืดเคือง

การใช้แพทย์แผนดั้งเดิมในการรักษาตัวเองและป้องกันโรค

จะสามารถลดค่าใช้จ่ายสาธารณสุขของรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกได้

สถานการณ์การใช้แพทย์แผนจีนกับการดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร

พวกเราจะเห็นว่าในระบบสาธารณสุขญี่ปุ่น

รวมถึงการรักษาพยาบาลในบ้านก็สามารถเบิกยาแพทย์แผนจีนให้ผู้ป่วยได้

เป็นยาจีน148ชนิด

ในเวลาเดียวกันก็มีหมอฝังเข็ม หมอกดจุดต่างๆ

ที่สามารถให้บริการตามอาการของโรคได้ถึงบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการใช้ยารักษาโรคในผู้สูงอายุที่สถาบันแพทยศาสตร์ในผู้สูงอายุญี่ปุ่นได้เขียนไว้

ฉบับปี2015

ภายในมีบทความพิเศษเขียนเกี่ยวกับคำแนะนำและสิ่งที่ต้องระวังในการใช้ยาจีน

เช่น ตรงบทที่12

ที่เขียนเกี่ยวกับการใช้งาน

ยาแพทย์แผนจีน

จะมีเขียนถึงใบสั่งยาจีนบางตัวที่มีหลักฐานประกอบค่อนข้างมาก

เช่น โยคุคังซัง ฮังเกโคโฮคุโตะ ไดเคนชูโตะ โฮจูเอะคิโตว มาชินินกัน

และเขียนอธิบายว่ายาสามารถรักษาโรคอะไรได้ สิ่งที่ต้องระวัง และข้อมูลอ้างอิง

อย่างเช่น โยคุคันซังกับการรักษาโรคทางอารมณ์ของผู้สูงอายุ

ฮังเกโคโฮคุโตะสามารถบรรเทาอาการเกี่ยวกับการกลืนหรืออาการไอได้

อย่างไดเคนชูโตะสามารถรักษาอาการอาหารไม่ย่อยได้

หรืออาการท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาจริง

โฮจูเอะคิโตวสามารถบรรเทาอาการโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทุพโภชนาการ หรืออาการเหนื่อยล้า

มาชินินกันสามารถบรรเทาอาการท้องผูกที่พบมากในผู้สูงอายุ

ในประเทศเกาหลี แพทย์แผนจีนก็คือแพทย์แผนเกาหลี

ในระบบการดูแลผู้สูงอายุ แพทย์แผนเกาหลีและแพทย์แผนปัจจุบันจะใช้ควบคู่ไปด้วยกัน

กฎหมายดูแลผู้สูงอายุของเกาหลีได้กำหนดวิธีการดูแลผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

ผู้ดูแลผู้สูงอายุอย่างเช่นพยาบาล สามารถดูแลและให้บริการต่างๆกับผู้สูงอายุ

ตาม "คู่มือการดูแลผู้สูงอายุ"

ที่แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนเกาหลีหรือทันตแพทย์เขียนไว้ได้

หรือพูดได้ว่าแพทย์แผนเกาหลีสามารถเขียนคู่มือดูแลผู้สูงอายุขึ้นมาได้

แล้วสถานการณ์การใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุในไต้หวันเป็นเช่นไร

เรามาดูกันครับ

ก่อนปี2015

รัฐบาลไต้หวันไม่ได้นำแพทย์แผนจีนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบการดูแลผู้สูงอายุ

อย่างเช่น ในปี1999 สมาคมผู้ดูแลผู้สูงอายุในสถาบันวิจัยสาธารณสุขแห่งชาติได้ก่อตั้งขึ้น

ในปี2000 ได้จัด "ซีรีส์งานบรรยายการก่อตั้งรูปแบบบริการดูแลผู้สูงอายุ"

จนปี2015 ถึงเพิ่งจะได้พูดถึงนโยบายการใช้แพทย์แผนจีนขึ้น

ดังนั้นดูโดยรวมแล้ว

แพทย์แผนจีนเข้าร่วมการดูแลผู้สูงอายุช้าไป16ปี

ในแผนวิจัยที่กรมแพทย์แผนจีน กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการจัดขึ้นในปี2015

ได้วิจัยเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุกับการใช้แพทย์แผนจีน

งานวิจัยได้ใช้แบบสำรวจดูความต้องการการใช้แพทย์แผนจีน

ในระบบดูแลผู้สูงอายุในผู้ดูแลและครอบครัว

ผลปรากฎว่ามีผู้ดูแลและครอบครัวผู้สูงอายุกว่า80%

คิดว่าต้องใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุร่วมด้วย

นอกจากนี้ ตามข้อมูลสำรวจของกรมอนามัยในปี2018พบว่า

ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองที่ไม่สะดวกไปโรงพยาบาล

มีความต้องการใช้แพทย์แผนจีนเป็นอย่างมาก

ผู้ป่วยเหล่านี้ได้ใช้บริการแพทย์แผนปัจจุบันในบ้านอยู่แล้ว

แต่พวกเขาก็ยังต้องการการรักษาแพทย์แผนจีน

ต่อไปผมจะพูดถึง

อาการที่ใช้แพทย์แผนจีนรักษาได้ดี

เช่น ระบบปัสสาวะ ระบบผิวหนัง เส้นประสาท ระบบจิตวิทยา ระบบทางเดินหายใจ

ระบบย่อยอาหาร ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก

อาการในระบบข้างต้นสามารถใช้แพทย์แผนจีนรักษาบรรเทาได้

ในส่วนอาการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ได้แก่ อาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย

อาการติดเชื้อในช่องทางเดินหายใจซ้ำในระบบทางเดินหายใจ

อาการท้องผูกในระบบย่อยอาหาร

อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อและกระดูก

อาการข้างต้นได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ยาจีนบรรเทารักษาได้

ในการดูแลผู้สูงอายุ2.0 รายการการรักษาที่เพิ่มขึ้นก็คือ

ยาจีนสามารถเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาพยาบาลที่บ้านได้

ในปี2015 วงการยาจีนในไต้หวันก็เริ่มสนับสนุน

งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้แพทย์แผนจีนดูแลผู้สูงอายุ

งานวิจัยเหล่านี้เริ่มทำตั้งแต่ปี2015จนถึงปี2019

แผนวิจัยเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนหลักจากกรมแพทย์แผนจีน กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์แพทย์แผนจีนแห่งชาติ

นี่คือกรมแพทย์แผนจีน กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ นี่คือผอ.หวง ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน

นี่คือสหพันธ์แพทย์แผนจีนแห่งชาติ

นี่คือผู้อำนวยการสหพันธ์คนปัจจุบัน เคอฝู้หยาง

ทั้งสองท่าน ท่านหนึ่งอยู่ภาครัฐ อีกท่านอยู่ภาคเอกชน

ได้ส่งเสริมการใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก

งานวิจัยรูปแบบการพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุกับการใช้แพทย์แผนจีนในปี2015

ผู้ดำเนินการคือสหพันธ์แพทย์แผนจีนแห่งชาติ

และแผนกแพทย์แผนจีนในโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนเป็นผู้ใช้ปฏิบัติจริง

งานปฏิบัติหลักๆมีด้วยกัน3ด้าน

ด้านที่หนึ่ง พวกเราได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศ

แล้วสำรวจความคิดเห็นของผู้ดูแลและครอบครัวผ่านแบบสอบถาม

พวกเราใช้แบบสอบถาม1000ชุด ได้รับกลับมา800กว่าชุด

พวกเราหวังจะใช้ข้อมูลและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและครอบครัว

มาประกอบการออกแบบนโยบายด้วย

งานหลักที่ทำในปี2017และปี2018

คือดำเนินการแผนป้องกันและบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพในสังคมอย่างเป็นระบบ

ด้านที่สองคือยกระดับคุณภาพการใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุ

พวกเราได้เลือกยกระดับการป้องกันการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ

ด้านที่สามคือการใช้แพทย์แผนจีนในการรักษาจริงที่บ้าน

งานที่ทำในปี2019ก็ยังเป็นงานยกระดับคุณภาพการดูแลผู้สูงอายุ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือดูว่าการใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุ

สามารถป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจได้หรือไม่

บทบาทของแพทย์แผนจีนในไต้หวันในการดูแลรักษาพยาบาลที่บ้าน

ที่โดดเด่นที่สุดคือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการปรับสภาพร่างกาย

เสริมสร้างกำลังกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก

ส่งเสริมสุขภาพและช่วยทำให้อาการโรคเรื้อรังทรงตัวด้วยยาจีน

ตัวอย่างเช่น ลดการใช้ยาลง

ลดช่วงเวลาล้มป่วยจนต้องนอนพักหรือจำนวนครั้งที่ต้องมาหาหมอที่โรงพยาบาลลง

นอกจากนี้ยังสามารถลดจำนวนวันหรือจำนวนครั้งที่ต้องพักรักษาในโรงพยาบาล

ลดอัตราการหกล้มหรืออัตราการติดเชื้อได้ด้วย

พวกเราหวังว่าการใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุจะสามารถช่วยลดภาระหน้าที่ของผู้ดูแลได้

สุดท้ายหวังว่าจะสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพในผู้สูงอายุได้

ช่วยลดการรักษาพยาบาลและการดูแล ทำให้หน้าที่ของผู้ดูแลเบาลง

รายละเอียดของการดูแลรักษาพยาบาลในบ้านด้วยแพทย์แผนจีนมีดังต่อไปนี้

ข้อแรก ใช้การดู ดม ถาม และการรักษาของแพทย์แผนจีน

ไปตรวจวินิจฉัยผู้สูงอายุที่ดูแลอยู่

แล้วใช้แพทย์แผนจีนประเมินสภาพร่างกาย

หลังจากนั้นใช้แพทย์แผนจีนช่วยแนะแนวทางโภชนาการหรือการดูแลสุขภาพป้องกันโรค

ใช้ชี้นำช่องทางรักษาสุขภาพ เช่น ไทเก๊ก หรือชี่กง

การนวดกดจุดลมปราณ เป็นต้น

แพทย์แผนจีนยังสามารถใช้ปรับสภาพร่างกายได้

เช่น ถ้าคนไข้ต้องการรักษาพยาบาล พวกเราก็สามารถฝังเข็มให้ได้

หรือใช้วิธีรักษาอาการบาดเจ็บแบบแพทย์แผนจีน เป็นต้น

ในส่วนของการอบรมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน

แพทย์แผนจีนของไต้หวันสามารถให้การอบรมฟื้นสมรรถภาพ

ผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนจากโรคหลอดเลือดในสมอง

และผู้ป่วยที่กระดูกหักข้อต่อเสื่อมเฉียบพลันได้

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการดูแลผู้ป่วยเสื่อมสมรรถภาพรุนแรง

อย่างเช่น ผู้ป่วยเสื่อมสมรรถภาพรุนแรงอาจจะมีปัญหาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะแบบเรื้อรัง

มีปัญหาในการนอนหลับ

หรือมีปัญหาจิตใจฟุ้งซ่าน กระสับกระส่าย

มีปัญหาติดเชื้อในช่องทางเดินหายใจซ้ำ

ปัญหาในระบบย่อยอาหาร เช่น ปัญหาท้องผูกที่พบบ่อยๆ

ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก

ปัญหาที่เจอบ่อยๆคืออาการเจ็บปวดหรือปัญหาไขข้อต่างๆ เป็นต้น

แพทย์แผนจีนสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆข้างต้นได้

แผนใช้แพทย์แผนจีนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุของไต้หวัน

ก่อนอื่นต้องเข้าใจกระแสในระดับสากลก่อน

ก็คือการรักษาผสมผสานระหว่างแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน

หลังจากนั้นพวกเราก็จะสำรวจ

ความต้องการแพทย์แผนจีนของผู้ดูแลและครอบครัวต่อไป

นอกจากนี้ยังสามารถสนับสนุนช่องทางการเข้าถึงบริการแพทย์แผนจีนได้ด้วย

อย่างเช่น สามารถเชิญสหพันธ์แพทย์แผนจีนแห่งชาติมาสนับสนุนในระดับชุมชนและในระดับการรักษาพยาบาลที่บ้านได้

ในส่วนขององค์กร ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดอยู่

ในอนาคตพวกเราหวังว่าจะสามารถนำแพทย์แผนจีนเข้าไปในองค์กร

แล้วให้บริการรักษาสุขภาพด้วยแพทย์แผนจีนได้

ต่อมาคือชี้แจงผลการรักษาจริงที่พิสูจน์ได้ของแพทย์แผนจีน

และหวังว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความร่วมมือกับกลุ่มดูแลผู้สูงอายุอื่นๆได้

ด้วยความพยายามข้างต้น

สถานการณ์การเข้าร่วมกลุ่มดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างไรบ้าง

พวกเรามาดูกัน

ปัจจุบันได้เปิดคลาสการดูแลผู้สูงอายุของแพทย์แผนจีน2.0ในปี2019แล้ว

ในปลายเดือนตุลาคม ปี2019 ได้มีข่าวหนึ่งประกาศออกมา

นั่นก็คือกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการกำลังพิจารณาบรรจุแพทย์แผนจีนเข้าไปในระบบการดูแลผู้สูงอายุ

ที่จริงมีองค์กรบางส่วนได้เริ่มลองใช้แล้ว

รวมถึงโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนด้วย

โจวเต้าจวิน รองผู้อำนวยการกรมการดูแลผู้สูงอายุได้กล่าวว่า

ถ้าแพทย์แผนจีนได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบดูแลผู้สูงอายุ

เขาก็หวังว่าแพทย์แผนจีนไต้หวันจะสามารถช่วยรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุได้

และสามารถช่วยป้องกันโรคในผู้สูงอายุได้ด้วย

หากแพทย์แผนจีนให้ผลดีล่ะก็

รองผู้อำนวยการโจวก็ยินดีที่จะให้แพทย์แผนจีนเข้าไปในระบบ

และให้การสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ

ต่อมาพวกเรามาดูงานวิจัยพิสูจน์จริงเกี่ยวกับการใช้แพทย์แผนจีนของไต้หวันในการดูแลผู้สูงอายุ

เมื่อกี้ได้พูดถึงการทำแบบสำรวจและการประชุมผู้เชี่ยวชาญ

ที่พวกเราเคยทำไปเมื่อปี2015

เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการแพทย์แผนจีนของผู้สูงอายุในไต้หวัน

และความคิดเห็นของผู้ดูแลที่มีต่อการนำแพทย์แผนจีนเข้าระบบดูแลผู้สูงอายุ

ระหว่างปี2017ถึงปี2018

พวกเราก็ทำงานต่อไปนี้อย่างต่อเนื่อง

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือการสร้าง

แผนบรรเทาและป้องกันอาการเสื่อมสมรรถภาพในระดับชุมชนและองค์กร

ในแผนการนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการออกแบบไทเก๊กแบบนั่งและชี่กงแบบนั่ง

และเปิดคอร์สอบรมและประชาสัมพันธ์ในชุมชนและองค์กรดูแลผู้สูงอายุต่างๆ

อย่างในภาคกลางของไต้หวัน

พวกเราก็เปิดคอร์สสอนไทเก๊กแบบนั่่งที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในจังหวัดจางฮั่ว

นอกจากนี้ พวกเราก็เปิดคอร์สสอนชี่กงแบบนั่งที่ศูนย์แห่งนี้ด้วย

เป้าหมายสำคัญของไทเก๊กแบบนั่งและชี่กงแบบนั่ง

ก็คือเพิ่มรูปแบบ

กิจกรรมของผู้สูงอายุภายในศูนย์

ช่วยบรรเทาอาการของกล้ามเนื้อและกระดูกให้ทุเลาลง

จากผลการปฏิบัติจริง

พบว่าเมื่อนำกลุ่มผู้สูงอายุที่เล่นไทเก๊กแบบนั่งและชี่กงแบบนั่ง

ไปเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้สูงอายุทั่วไป

โดยเปรียบเทียบตามตารางความก้าวหน้าIADL

จะเห็นว่ากำลังวังชาของกลุ่มที่เล่นไทเก๊กและชี่กงได้เพิ่มสูงขึ้น

ในปี2017และปี2018

สิ่งที่สองที่ทำคือแผนยกระดับคุณภาพการดูแลรักษา

พวกเราได้เลือกการป้องกันการติดเชื้อในช่องทางเดินปัสสาวะ

โดยเน้นไปที่การป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะ

พวกเราได้เลือกยาจีนที่ชื่อว่าปาเจิ้งซ่าน

ที่สามารถใช้รักษาการติดเชื้อในช่องทางเดินปัสสาวะได้

ปาเจิ้งซ่านเป็นยาจีนรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ที่ใช้ส่วนผสมยาจีนเก้าขนานรวมเข้าด้วยกัน

งานวิจัยนี้แบ่งเป็นกลุ่มปฏิบัติจริงและกลุ่มเปรียบเทียบ

กลุ่มปฏิบัติจริงเป็นกลุ่มที่กินผงยาปาเจิ้งซ่าน

กลุ่มเปรียบเทียบคือกลุ่มที่กินสารเพิ่มปริมาณ

จากผลการวิจัยจะเห็นได้ว่า

การใช้ยาจีนป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยความเสี่ยงสูง

โดยใช้ยาปาเจิ้งซ่านติดต่อกันเป็นเวลา6สัปดาห์

อัตราการเกิดโรคในกลุ่มปฏิบัติจริง

ต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ

นอกจากการสังเกตด้วยการกินยาต่อเนื่อง6สัปดาห์

พวกเรายังทำการทดสองสังเกตการณ์เป็นเวลา6เดือนด้วย

ก็คือกินยาไปครึ่งปี

อัตราการเกิดภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะสะสมในผู้ป่วย

กลุ่มปฏิบัติจริงยังคงเกิดขึ้นต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ

ดังนั้นพวกเราจะเห็นได้ว่า

ถ้าผู้ป่วยที่รักษาที่บ้านใช้ยาปาเจิ้งซ่าน

ในการป้องกันภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ก็จะเห็นผลการป้องกันโรคอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่พวกเราได้ตรวจรูปแบบความเสี่ยงแล้ว

ก็จะเห็นได้ว่ากลุ่มปฏิบัติจริง

มีความเสี่ยงภาวะติดเชื้อในช่องทางเดิน

ปัสสาวะต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ

พวกเรายังวิเคราะห์น้ำปัสสาวะของกลุ่มปฏิบัติจริงและกลุ่มเปรียบเทียบ

พบว่าจำนวนเม็ดเลือดขาวในน้ำปัสสาวะของกลุ่มปฏิบัติจริง

มีจำนวนน้อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ

ผลการวิเคราะห์ก็มีมากพอที่จะทำการสรุปผลด้วย

จากผลการวิจัยนี้ พวกเราพบว่า

ถ้าผู้สูงอายุที่รักษาตัวอยู่บ้านใช้ยาปาเจิ้งซ่านป้องกันภาวะการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะล่ะก็

ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างเห็นได้ชัด

และหลังจากหยุดยาเป็นเวลาครึ่งปี

ความเสี่ยงของกลุ่มปฏิบัติจริงก็ยังคงต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอยู่ดี

ในปี2017ถึงปี2018 พวกเราได้ทำงาน

ชิ้นที่สามนั่นก็คือ

พวกเราได้ลองนำยาจีนเข้าไปใช้การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

นี่คือระบบเตรียมพร้อมออกจากโรงพยาบาล

ของแผนกแพทย์แผนจีนในโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

หรือก็คือระหว่างที่ผู้ป่วยพักรักษาที่โรงพยาบาลก็สามารถรับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนได้

หรือก็คือระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ผู้ป่วยคนนั้นหรือครอบครัวของผู้ป่วย

หากต้องการบริการแพทย์แผนจีนดูแลรักษาที่บ้านหลักงจากออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะก็

พวกเราสามารถใช้ระบบนี้

จัดผู้ดูแลผู้ป่วยที่ต้องการบริการแพทย์แผนจีนที่บ้าน

ในระบบบริการเตรียมพร้อมก่อนออกจากโรงพยาบาลนี้

นอกจากการดูแลแล้วยังสามารถเลือกประเภทการดูแลได้ด้วย

เช่น ผู้ป่วยมีปัญหาท้องผูก

หรือมีปัญหาทางเดินหายใจ

หรือมีปัญหาระบบย่อยอาหาร

พวกเราก็สามารถเลือกผู้ดูแลได้จากจุดนี้

เพื่อทำให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

เมื่อทีมแพทย์แผนจีนจะไปให้บริการที่บ้านของผู้ป่วย

ทีมแพทย์จะทำความเข้าใจความต้องการของผู้ป่วยก่อน

นี่คือภาพการบริการแพทย์แผนจีนที่บ้านครับ

ท่านนี้คือแพทย์ประจำในแผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

เขาไปฝังเข็มรักษาผู้ป่วยที่บ้าน

และรักษาฟื้นสมรรถภาพตามแพทย์แผนจีนด้วย

ตั้งแต่ปี2015เป็นต้นมา

พวกเราได้วิจัยการใช้แพทย์แผนจีนในการดูแลผู้สูงอายุ

ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา

พวกเราก็เก็บข้อมูลผลการรักษาจริงมาอย่างต่อเนื่อง

เช่น ทีมแผนกแพทย์แผนจีนในโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

ในปี2015ได้ให้บริการในสี่จังหวัดภาคกลางของไต้หวัน

รวมถึงเก้าอำเภอย่อย

ทั้งหมดรวมกันเป็น15หน่วยบริการ

และช่วงนี้แพทย์แผนจีนสามารถสร้างผลงานระดับ2.0ได้

ที่สำคัญที่สุดคือคลินิกแพทย์แผนจีนของไต้หวัน

ได้แต้มระดับCแล้ว

หรือก็คือเป็นสถานที่ที่เป็นมิตรต่อผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

นอกจากนี้ยังผลักดันแผนป้องกันและบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพด้วยแพทย์แผนจีน

ระหว่างเตรียมตัวกลับบ้านก็ให้บริการรักษาแพทย์แผนจีนต่อที่บ้าน

หรือก็คือแพทย์แผนจีนได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในแผนการรักษาตัวที่บ้านแล้ว

เมื่อสักครู่ได้กล่าวถึงคลินิกแพทย์แผนจีนได้กลายเป็นศูนย์บริการชุมชน

อย่างในจังหวัดจางฮั่วและจังหวัดเหมียวลี่

ก็มีคลินิกที่สามารถยื่นคำร้อง

เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระดับCสำเร็จจังหวัดละหนึ่งแห่ง

และผลการปฏิบัติงานก็ดีมากด้วย

ในแผนดูแลรักษาตัวที่บ้านในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ

เมื่อสักครู่ที่ผมพูดไปก็คืองานที่สามที่ดำเนินการไป

ก็คือแพทย์แผนจีนได้ลองเข้าร่วมการรักษาพยาบาลที่บ้านนั่นเอง

ผลลัพธ์เหล่านี้ทำให้ในปี2019

แพทย์แผนจีนได้รับบรรจุในแผน

การดูแลรักษาพยาบาลที่สามในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ

ที่กรมประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการประกาศออกมา

แพทย์แผนจีนที่จะเข้าร่วมแผนนี้

ต้องผ่านการอบรมจากสหพันธ์แพทย์แผนจีนระดับชาติ

และได้รับใบประกาศนียบัตรการดูแลรักษาที่บ้านด้วยแพทย์แผนจีนก่อน

ในแผนนี้

ไม่ว่าจะในด้านการตรวจวินิจฉัยด้วยแพทย์แผนจีน

หรือความต้องการในการดูแลรักษาพยาบาล

กรมประกันสุขภาพก็สามารถออกแบบแผนสนับสนุนให้ได้

ดังนั้นในเดือนมิถุนายน ปี2019

ด้วยความพยายามจากทุกคนในวงการแพทย์แผนจีนในไต้หวัน

แพทย์แผนจีนในไต้หวันก็ได้เข้าร่วมในระบบดูแลผู้สูงอายุไต้หวันอย่างเป็นทางการ

กลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ดูแลผู้สูงอายุ

ปัจจุบันแพทย์แผนจีนไต้หวันได้เข้าร่วมระบบบริการดูแลผู้สูงอายุไต้หวันแล้ว

แต่พวกเราก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ

งานแรกคือทำงานรักษาพยายาลที่บ้านด้วยแพทย์แผนจีนอย่างต่อเนื่อง

เปิดคอร์สแพทย์แผนจีนระดับ2

พวกเราหวังให้แพทย์แผนจีนเข้าร่วมการอบรมนี้มากยิ่งขึ้น

เพื่อที่อนาคตจะมีแพทย์แผนจีนให้บริการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องมาตรฐานค่าใช้จ่ายการดูแลผู้สูงอายุด้วยแพทย์แผนจีนด้วย

อย่างค่าใช้จ่ายเขียนหนังสือความเห็นทางการแพทย์

หรือเขียนรายการแนะนำการดูแลให้กับผู้ดูแลด้วยแพทย์แผนจีน เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้

พวกเราหวังว่าในอนาคตผู้ดูแลผู้สูงอายุ

จะสามารถกำหนดรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาได้

ต่อมาคือการทำตารางบาร์เธลฉบับไต้หวัน

พวกเราหวังว่าแพทย์แผนจีนในอนาคตจะสามารถได้รับ

และใช้ตารางบาร์เธลได้

เรื่องต่อไปคือ

เรื่องที่แพทย์แผนจีนในไต้หวันต้องทำเพื่อเข้าร่วมการดูแลผู้สูงอายุในระยะยาว

อย่างการตั้งมาตรฐานคุณภาพขึ้นมา

พวกเราหวังว่าจะมีแพทย์แผนจีนเข้าร่วมการดูแลผู้สูงอายุมากพอ

และพวกเราก็หวังว่าแพทย์แผนจีนในไต้หวัน

จะสามารถติดต่อและร่วมมือข้ามศาสตร์กับทีมผู้ดูแลผู้สูงอายุได้

พวกเราหวังว่าจะสามารถร่วมทำงานกับทีมแพทย์แผนปัจจุบัน

และใช้รูปแบบทำงานประสานกัน

นอกจากนี้ พวกเราก็หวังว่าจะสามารถสร้างเครือข่ายการรักษาแพทย์แผนจีนระดับชุมชม

เปิดคอร์สการสอนที่เกี่ยวข้อง ผลลัพธ์มีการรับรองชัดเจน

ในส่วนของรัฐบาล พวกเราก็หวังว่ารัฐบาลจะให้งบสนับสนุนอย่างเพียงพอ

ต่อไปผมจะแนะนำ

รูปแบบการดูแลบรรเทาโรคสมองเสื่อมโดยไม่ใช้ยา

หรือก็คือประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

โดยใช้แพทย์แผนจีนในไต้หวัน

ก่อนที่จะบรรยายหัวข้อนี้

ผมอยากจะชวนทุกคนมาลองคิดกันสักหน่อย

ว่าแพทย์แผนจีนสามารถช่วยบรรเทาโรคสมองเสื่อมได้หรือไม่

ก็คือการฝังเข็มหรือยาจีน

สามารถบรรเทาหรือทำให้การรับรู้

ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมดีขึ้นหรือไม่

Cochrane Centerได้สรุปงานวิจัยการฝังเข็มผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง

เป็นเวลา28วันอย่างเป็นระบบ

ผลสรุปก็คือมีผลงานวิจัยมากมายมีข้อมูลทางสถิติที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับ

ความสามารถการรับรู้ กำลังกาย พฤติกรรม อารมณ์ หรือคุณภาพชีวิต

ต่อไปก็คือใช้Functional MRI

มาสำรวจว่าการฝังเข็มมีผลอย่างไรต่อผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

ระหว่างการวิจัยพบว่า การใช้Funtional MRIมาสำรวจดูการฝังเข็ม

จะเห็นว่าการฝังเข็มได้เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณเยื่อบุสมองของผู้ป่วย

แล้วยังมีงานวิจัยบางส่วนใช้เข็มฝังในจุดลมปราณต่างๆ

เช่น จุดเสินเหมิน ไป่ฮุ่ย อันเหมียน อิ้นถัง จูซานหลี่ ซานหยิน เป็นต้น

ใช้NpiและSleep Parameterมาตรวจวัดการนอนหลับของผู้ป่วย

พบว่าการฝังเข็มในจุดลมปราณสามารถยกระดับคุณภาพการนอนและทำให้เวลานอนของผู้ป่วยยาวนานขึ้น

การดูแลแพทย์แผนจีนแบบหลายโมเดลมีผลต่อการรับรู้ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมหรือไม่

ก็เป็นเป้าหมายการทำวิจัยของพวกเรา

ดังนั้นแผนนี้ของพวกเราจะเน้นดูผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อม

เป็นเงื่อนไขในการเก็บข้อมูล

จัดตั้งวิธีดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่ต้องการการดูแลระยะยาว

และการดูแลตอนกลางวันแบบผสานแพทย์แผนจีนกับแผนปัจจุบันเข้าด้วยกัน

ทีมที่ดูแลนี้นอกจากจะมีแพทย์แผนจีนแล้ว

ยังมีเภสัชกรยาจีน ผู้ควบคุมดูแลและพยาบาลด้วย

หลักๆคือหวังว่าจะสามารถเพิ่มความร่วมทางด้านการรักษาและการบริหารให้ดียิ่งขึ้น

จนกลายเป็นรูปแบบการดูแลที่รวมแพทย์จีนและแพทย์ปัจจุบันเข้าด้วยกัน

และสามารถรักษาคนๆหนึ่งได้อย่างเต็มที่

เงื่อนไขการเก็บข้อมูลของงานวิจัยนี้

จะเน้นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระดับเล็กน้อยมาก เล็กน้อยหรือปานกลางเป็นหลัก

เพราะสัญญาณชีพของพวกเขามั่นคง ไม่มีโรคเฉียบพลันอะไร

นอกจากนี้จะตัดผู้ป่วยที่มีอาการกระสับกระส่าย มีบาดแผล ใส่เครื่องช่วยกระตุ้นหัวใจ มีเนื้อร้าย

หรือโรคลมชักออกไป

วิธีดำเนินการคือผู้ป่วยจะได้รับการรักษาแบบผสมผสานแพทย์แผนจีนสัปดาห์ละ5ครั้ง

ครั้งละ4ชั่วโมง ทำอย่างนี้นาน8สัปดาห์

สถานที่รับการดูแลคือศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมภาคกลางวัน

ได้แก่ สวนความจำหรรษาของโรงพยาบาลของเรา

ศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมของโรงพยาบาลฟาร์ลิน (Farlin)

วิธีดำเนินการ ได้แก่ เล่นไทเก๊กแบบนั่ง ฝังเข็มเลเซอร์

และกิจกรรมสันทนาการแบบแพทย์แผนจีน

ในส่วนการออกแบบงานวิจัย

พวกเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุ

อย่างเช่น ชื่อนามสกุล เพศ วันเกิด

พวกเราจะตรวจวินิจฉัยโรคให้ผู้ป่วยด้วยแพทย์แผนจีน

และทำการประเมินตาราง4แบบ

แบบประเมินแรกคือCASI ตรวจความบกพร่องความสามารถในการรับรู้

ประเมินความสามารถในการรับรู้9ด้านของผู้สูงอายุ

แบบประเมินที่สองNPI-Q เป็นตารางชี้วัดจิตวิทยาและพฤติกรรม

หลักๆจะประเมินความยากลำบากของผู้ป่วย

ต่อไปเป็นแบบประเมินGDS-15เป็นตารางวัดความซึมเศร้าของผู้สูงอายุอย่างง่าย

ใช้ประเมินระดับซึมเศร้าของผู้สูงอายุ

สุดท้ายคือแบบประเมินKihon Checklist ตารางวัดภาวะเปราะบางของผู้สูงอายุ

ใช้ประเมินระดับความเปราะบางของผู้สูงอายุ

ในส่วนของการปฏิบัติจริง

อย่างแรกคือฝังเข็มเลเซอร์เป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพในการรับรู้

หลักๆจะใช้เครื่องฝังเข็มเลเซอร์

จุดลมปราณที่เลือกฝังคือไป่ฮุ่ย ซื่อเสินชงและเฟิงฉือ

ฝังเข็มเลเซอร์เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย

พวกเราจะใช้การฝังเข็มเลเซอร์มาฟื้นฟูความสามารถในการรับรู้ของผู้สูงอายุ

สมรรถภาพเชิงกายภาพจะใช้ไทเก๊กแบบนั่งมาช่วยฟื้นฟูเป็นหลัก

มีด้วยกัน8ท่า

แบ่งเป็นท่าฝ่ามือเมฆา ท่าม้าป่าห้อตะบึง ท่าก้าวย่างยืดย่อ ท่ายืดฝ่ามือ

ท่าเข็มก้นสมุทร ท่าวิชาศอก ท่าไก่ทองร้องขัน ท่าสาวด้าย

ใช้กิจกรรมเหล่านี้มาฟื้นฟูกำลังในการทำกิจกรรมต่างๆของผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ยังมีชี่กงแบบนั่ง

ไทเก๊กแบบนั่งและชี่กงแบบนั่ง

ได้ผ่านการพิสูจน์ในงานวิจัยก่อนหน้านี้ของพวกเราแล้ว

ว่าสองกิจกรรมนี้สามารถยกระดับ

IADLในผู้สูงอายุได้อย่างชัดเจน

ในส่วนของการจัดคอร์ส

พวกเราจะใช้วิธีดังต่อไปนี้

ให้ผู้เรียนลงทะเบียนและวัดความดัน

ครูผู้สอนแนะนำตัวเอง หลังจากวอร์มอัพและทำไทเก๊กแบบนั่ง

จะให้ผู้เรียนพักเหนื่อย

จากนั้นทำกิจกรรมสันทนาการแบบแพทย์แผนจีน

หลังกิจกรรมสันทนาการก็จะฝังเข็มเลเซอร์กระตุ้น

แล้วก็ให้ผู้เรียนพักผ่อนอีกครั้ง

ต่อมาก็จะทำกิจกรรมสันทนาการแบบแพทย์แผนจีน

แล้วก็ให้พักอีกครั้ง

แล้วก็ทำไทเก๊กแบบนั่ง

คอร์สแต่ละวันจะปรับตามสภาพร่างกายของผู้สูงอายุในวันนั้นๆ

ส่วนกิจกรรมสันทนาการแบบแพทย์แผนจีน

อย่าง เรียนรู้วัตถุดิบยาจีน

ก็จะให้ผู้สูงอายุทำห่อยาจีนด้วยตัวเอง

ทำห่อไล่ยุงเอง

นอกจากนี้ก็จะแนะนำการวินิจฉัยแบบแพทย์แผนจีน ความรู้เรื่องโภชนาการแบบแพทย์แผนจีน

แนะนำการปฏิบัติจริง อย่างเช่น การกดจุดลมปราณ กวาซาหรือครอบแก้วสุญญากาศ

หลังจากจะเล่นบอร์ดเกมหรือเล่นกิจกรรมสันทนาการกลุ่ม

ในส่วนของการเก็บข้อมูล เราได้เก็บข้อมูลจากผู้สูงอายุ37ท่าน

มี2ท่านถอนตัวระหว่างการประเมิน

สุดท้ายมีผู้สูงอายุ35ท่านเข้าร่วมแผนการวิจัย

หลังจากนั้นมี4ท่าน ได้ถอนตัวออกไป

ด้วยเหตุผลทางสุขภาพและครอบครัว

สุดท้ายจำนวนคนที่ทำการประเมินจนจบมี31คน

หน้านี้เป็นอัตราส่วนเพศของผู้สูงอายุ

และอัตรากระจายของอายุ สูงสุดที่80-89ปี

รองลงมาคือ70-79ปี และ60-69ปีมี8ท่าน

อายุมากกว่า90ปีขึ้นไปมี1ท่าน

ระดับความรุนแรงของโรคสมองเสื่อม มีแนวโน้มจะเป็น11ท่าน

ระดับเล็กน้อยมาก12ท่าน ระดับเล็กน้อย9ท่าน ระดับกลาง4ท่าน

ในส่วนการประเมินการเสื่อมสมรรถนะในการรับรู้ขั้นต้น

ผู้สูงอายุเหล่านี้จะมีปัญหาเรื่องความจำระยะสั้น และการคิดอย่างไหลลื่นค่อนข้างมาก

ต่อไป การประเมินด้วยตารางวัดSPMSQ

ผู้สูงอายุจะมีปัญหาความจำและการพูดซ้ำค่อนข้างมาก

นี่คือกิจกรรมสันทนาการแบบแพทย์แผนจีน

และการแนะแนวความรู้โภชนาการโดยแพทย์แผนจีน

กิจกรรมปฏิบัติจริงอย่าง กวาซา

อย่างเช่น หมอจีนกำลังสอนความรู้เกี่ยวกับการกวาซา

แล้วก็วิธีปฏิบัติจริง

ต่อไปคือผู้สูงอายุทำไทเก๊กแบบนั่ง

แล้วก็กิจกรรมสันทนาการที่เกี่ยวกับความทรงจำ

หลังจากนั้นก็จะเป็นหมอจีนแนะแนวความรู้เกี่ยวกับยาจีน

แล้วก็ทำห่อยาจีนด้วยตัวเอง

พวกเรายังมีเกมต่างๆให้เล่น อย่าง บอร์ดเกม จิ๊กซอว์

เกมจับคู่วัตถุดิบยาจีน

นอกจากนี้ก็จะมีกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ

พวกเรายังจัดงานเสวนาการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมภาคกลางวันด้วยยาจีน

พวกเราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ4ท่าน

มาบรรยายเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมด้วยแพทย์แผนจีนและปัจจุบัน

ได้แก่นายแพทย์หวางฝู่ แพทย์แผนกประสาทวิทยาโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

และรองผู้อำนวยการโรงพยาบายลู่กังคริสเตียน

แพทย์หญิงจางข่ายหมิง ผู้อำนวยการศูนย์ร่วมดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

พวกเราก็ได้เชิญผู้อำนวยการสมาคมแพทย์แผนจีนท้องถิ่น

ให้มาบรรยายเกี่ยวกับการใช้แพทย์แผนจีนดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในพื้นที่ของเขา

พวกเรายังได้เชิญแพทย์จากแผนกแพทย์แผนจีน

มาบรรยายการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุด้วยแพทย์แผนจีน

สุดท้ายคือการบรรยายประสบการณ์และรายงานผลการวิจัยเบื้องต้นครับ

พวกเราได้เชิญแขกต่างๆมากมาย

ในงานมีบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก

มาจากทั้งโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านดูแลคนชรา คลินิกและประชาชนทั่วไป

ที่สนใจในการใช้แพทย์แผนจีนดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

จึงมีผู้คนลงทะเบียนกันอย่างคึกคัก

ตอนวันงานก็คึกคักมากเช่นเดียวกัน

พวกเราหวังจะใช้รูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมด้วยแพทย์แผนจีนที่สร้างขึ้นมา

พร้อมกับการประเมินผลการรักษาจริงมาพิสูจน์ผลการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมภาคกลางวันด้วยแพทย์แผนจีน

อีกทั้งแบ่งปันประสบการณ์การดูแลด้วยแพทย์แผนจีนให้ทุกท่านดู

หลังจากนั้นก็จะขยายส่งเสริมไปทุกที่ทั่วประเทศ

วันนี้ผมขอจบการบรรยายแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ