Community Supporting Center for People with Dementia

About Ms. Chen, Ya-Min

Division Chief of Join Office for Dementia and Long-term Care Innovative e-Hospital

Script

สวัสดีทุกคน ฉันชื่อเฉินหยาหมิ่น หัวหน้าแผนกโรงพยาบาลย่อยสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมและการดูแลระยะยาวโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนค่ะ

วันนี้รู้สึกยินดีมากที่จะได้แบ่งปันประสบการณ์จากศูนย์บริการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจริง

ก่อนอื่นขอพูดถึงโครงเนื้อหาที่จะพูดวันนี้ก่อน

หัวข้อแรกจุดเริ่มต้นโครงการ

หัวข้อที่สอง แนะนำสวนนึกจำของศูนย์บริการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมของโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

หัวข้อที่สาม แนวทางปฏิบัติโครงการ

หัวข้อที่สี่ เนื้อหาปฏิบัติโครงการ

หัวข้อที่ห้า แผนบริการดูแลป้องกันและบรรเทาผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

หัวข้อสุดท้ายคือบริการนวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุ


ฉันจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของโครงการก่อนนะคะ

ตามผลการสำรวจพยาธิสภาพของโรคสมองเสื่อม

ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการได้ไหว้วานให้สมาคมผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมไต้หวันจัดทำขึ้นระหว่างปี2011ถึงปี2013

อัตราผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทุกช่วงอายุ5ปีเป็นดังต่อไปนี้

อายุ65ถึง69ปี 3.40%

70ปีถึง74ปี 3.46%

75ปีถึง79ปี 7.19%

80ปี ถึง84ปี 13.03%

85ปีถึง89ปี 21.92%

มากกว่า90ปีขึ้นไปคือ36.88%


จากตารางข้อมูลนี้พวกเราจะเห็นได้ว่า

อายุยิ่งมากก็จะยิ่งมีโอกาสเกิดโรคมากขึ้น อีกทั้งทุกช่วงอายุ5ปี อัตราการเกิดก็เพิ่มขึ้นทวีคูณด้วย

ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยมาก CDR0.5แต้ม มี39.39%

ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย CDR1แต้ม มี34.98%

สองกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สุด

รวมกันแล้วประมาณ75%


ในระดับความเสื่อมสมรรถภาพ

มี41.1%ไม่ได้เสื่อมสมรรถภาพเลย

เสื่อมสมรรถภาพเล็กน้อยมี15.2%

เสื่อมสมรรถภาพปานกลางมี12.1%

เสื่อมสมรรถภาพร้ายแรงมี31.6%

จากตารางพวกเราจะเห็นได้ว่า

ในองค์กรดูแลคนชรามีผู้ป่วย3.7%เป็นผู้ป่วยอาการเล็กน้อย

มีผู้ป่วยอาการปานกลาง7.1%

มีผู้ป่วยอาการหนัก12.0%


สามารถเห็นได้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่บ้าน

แล้วส่วนใหญ่ก็จะจ้างผู้ดูแลชาวต่างชาติมาดูแล

หรือไม่ได้ใช้บริการดูแลผู้สูงอายุอะไรเลย

มีหลายคนต้องเกษียณก่อนล่วงหน้าเพราะต้องไปดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

การออกจากงานหรือผลกระทบต่อสมรรถภาพการทำงาน

จะมีผลทางลบต่อการพัฒนาและการผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้นถ้าผู้ป่วยสามารถรับการรักษาได้แต่เนิ่นๆ

ทำให้ผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมยังสามารถอยู่ในบ้านหรือชุมชนที่คุ้นเคยได้

ก็สามารถชะลออาการของโรคสมองเสื่อมได้

อีกทั้งยังยกระดับคุณภาพชีวิตและลดต้นทุนในการดูแลได้


เพื่อทำให้การบริการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ลดภาระของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมให้น้อยลง

ทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทุกครอบครัวสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้ง่าย

และสามารถใช้งานได้ด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นการบริการที่รับภาระไหว

ดังนั้นตั้งแต่ปี2017 จุดสำคัญของแผนบริการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ

ก็คือกระจายศูนย์บริการผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมให้มากขึ้น

จนคลอบคลุมทั่วชุมชนที่มีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม


บริการผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในไต้หวันสามารถแบ่งได้สองส่วน

แบบแรกคือศูนย์บริการโรคสมองเสื่อม

อีกแบบหนึ่งคือศูนย์ดูแลรวมผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

ศูนย์ดูแลรวมผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมีแพลตฟอร์ม

ที่มีการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ สอนความสามารถฟังพูดอ่านเขียนในชุมชนและเป็นศูนย์ช่วยเหลือ

ทางศูนย์จะจัดคอร์สสร้างเสริมสมรรถภาพรับรู้ ชะลอการเสื่อมสมรรถภาพ การดูแลความปลอดภัย

กลุ่มสนับสนุนครอบครัว คอร์สอบรมผู้ดูแลและบริการนวัตกรรม

ตัวฉันรับผิดชอบเชื่อมต่อพยาบาลผู้ประสานงานในแพลตฟอร์มดูแลรวมและในศูนย์ดูแล


ต่อไปฉันจะแนะนำสวนความจำหรรษาในศูนย์บริการผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมค่ะ

สวนความจำหรรษา เป็นศูนย์สาธิตที่พวกเราบริหารจัดการอยู่

ความหมายในภาษาจีนคือเป็นสวนหรรษาแห่งความจำ

จากรูปจะเห็นได้ว่าลานกิจกรรมกลางแจ้งและประตูใหญ่ของสวนความจำหรรษา

สวนความจำหรรษาก่อตั้งเมื่อวันที่2 กรกฎาคม 2018

เวลาทำการคือวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เช้า7โมงครึ่งถึง6โมงเย็น

รายการบริการมีสร้างสรรค์การรับรู้ ป้องกันและชะลอโรคสมองเสื่อม การรักษาความปลอดภัย

กลุ่มสนับสนุนครอบครัว คอร์สดูแลในครอบครัว และบริการนวัตกรรมใหม่

อุดมการณ์ของทางศูนย์คือให้คนของโรงพยาบางจางฮั่วดูแลคนของโรงพยาบาลจางฮั่วเอง

อีกส่วนหนึ่งก็คือดูแลชุมชนและกลุ่มคนอ่อนแอ

ส่วนนี้เป็นหนึ่งในทัศนคติและหน้าที่ของทางโรงพยาบาลด้วย


นี่คือกิจกรรมสร้างเสริมการรับรู้ แผนป้องกันและชะลอโรคสมองเสื่อม

นี่คือกิจกรรมรักษาความปลอดภัย

ช่วยระวังเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย เลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แล้วก็ทำกิจกรรมง่ายๆ

นี่คือกลุ่มสนับสนุนครอบครัว จัดคอร์สคลายเครียดโดยนักให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา

นักให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาก็คือหมอที่ดูแลผู้ป่วยของทางศูนย์นั่นเอง

นี่คือคอร์สดูแลในครอบครัว คนให้อบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ดูแลรวมผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมของโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน

ยังมีนักสังคมสงเคราะห์ เภสัชกร นักโภชนาการและนักดูแลเคสส่วนบุคคล


เดี๋ยวฉันจะเปิดคลิปให้ทุกคนดูก่อนนะคะ

คลิปนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่า

หนึ่งวันในสวนความจำหรรษาทำกิจกรรมอะไรบ้างและมีคอร์สอะไรบ้าง


เมื่อผู้อาวุโสเข้ามา

พวกเราก็จะฆ่าเชื้อที่มือก่อน แล้วค่อยวัดความดัน วัดอุณหภูมิ จากนั้นให้เซ็นชื่อ

ตอนเช้าจะเป็นการออกกำลังกายเสริมสุขภาพ

แล้วให้ผู้สูงอายุอ่านข่าวของสัปดาห์ก่อนนิดหน่อย


มีนักศึกษามาฝึกงานที่นี่

ยังมีเด็กมัธยมปลายมาฝึกงานในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนด้วย


ตอนเที่ยงกินข้าวกล่อง

นอนกลางวันที่นี่

ตื่นแล้วก็มาทำบริการยืดเส้นต่อ


นี่คือคอร์สดนตรีบำบัด

นี่คืองานแถลงข่าวเปิดตัว

นี่คืองานเลี้ยงขอบคุณผู้สูงอายุ


ต่อไปคือโครงสร้างองค์กรของทางศูนย์

ด้านบนจะมีผู้อำนวยการหนึ่งท่าน จากนั้นลงมาก็คือผู้บริหาร ถัดลงมาคือฉัน หัวหน้าแผนก

ด้านล่างมีเจ้าหน้าที่ดูแล เจ้าหน้าที่ผู้ช่วย อาสาสมัคร แล้วก็เพื่อนร่วมแพลตฟอร์มดูแลรวม

บางครั้งพวกเขาก็จะมาช่วยงานด้วย

พิเศษสุดก็คือมีผู้ดูแลจากหลายครอบครัวประทับใจในงานของพวกเรามาก

เลยอาสามาเป็นอาสาสมัครที่นี่


พวกเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญหลายแขนง

ไม่ว่าจะเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ หมอยาจีน จิตแพทย์ นักโภชนาการ พยาบาล

นักสังคมสงเคราะห์ นักกายภาพบำบัดหรือนักบำบัดมืออาชีพ


ผู้ป่วยที่มาที่ศูนย์จะเป็นผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเป็นโรคสมองเสื่อม

ที่ผ่านการประเมินจากเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นMMSE AD8หรือBHTฯลฯ

ประเมินแล้วพบว่ามีแนวโน้มเป็นโรคสมองเสื่อม


อีกส่วนหนึ่งก็คือเป็นผู้ป่วยที่ผ่านการวินิจฉัย

และประเมินแน่ชัดแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่ผลCDRมากกว่า0.5แต้มขึ้นไป

ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระดับน้อยมาก น้อย ปานกลางและร้ายแรง

เป็นผู้ป่วยที่โอนมาจากศูนย์ดูแลจัดการผู้สูงอายุและศูนย์ดูแลรวม


นี่คือระบบบริการดูแลผู้สูงอายุโรคสมองเสื่อมของทางโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนค่ะ

พวกเราทำศูนย์ดูแลผู้สูงอายุตามซอย ศูนย์บริการผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ศูนย์ดูแลผู้ป่วยประจำวัน

ในชุมชนสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระดับน้อยมากถึงระดับปานกลาง


ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในที่นี้เป็นผู้ป่วยที่ผ่านการวินิจฉัยจากศูนย์ดูแลรวมแล้ว

โอนจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมาที่นี่

นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก

สามารถช่วยยืนยันประเภทโรคสมองเสื่อมของผู้ป่วย ระดับความร้ายแรงได้

ทำให้สามารถจัดคอร์สและกิจกรรมที่เหมาะสมตามระดับความร้ายแรงได้


เมื่อผู้ป่วยทุกคนเข้ามาแล้วก็จะได้รับการทดสอบเบื้องต้นก่อน กรอกข้อมูลพื้นฐานต่างๆ

นอกจากจะช่วยทำความเข้าใจระดับของโรคสมองเสื่อมและโรคเรื้อรังอื่นๆแล้ว

ยังสามารถใช้ข้อมูลพื้นฐานการใช้ชีวิตและความสนใจของผู้ป่วย

มาใช้ออกแบบคอร์สในภายภาคหน้าได้


ต่อไปจะแนะนำจุดเด่นของทางศูนย์นะคะ

จุดแรกการออกแบบพื้นที่

จุดที่สองสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

จุดที่สามขั้นตอนมาตรฐานการรักษาฉุกเฉิน

จุดที่สี่คือขั้นตอนจัดการผู้ป่วย

จุดที่ห้าคือขั้นตอนมาตรฐานการควบคุมโรคระบาด


ก่อนอื่นเริ่มจากการออกแบบพื้นที่นะคะ

ตัวศูนย์สามารถแบ่งได้เป็นสองส่วน

ส่วนแรกคือพื้นที่ทำกิจกรรม

อีกส่วนคือพื้นที่พักผ่อนตอนกลางวัน

ส่วนสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

ประกอบด้วยห้องน้ำปลอดสิ่งกีดขวาง

มีประตูควบคุมกันเดินหาย ต้องมีเจ้าหน้าที่มากดประตูถึงจะสามารถออกไปได้

ต่อไปคือพื้นที่เดินเล่น

ผู้สูงอายุบางท่านเข้าร่วมกิจกรรมแล้วแรงยังเหลือ

ก็จะให้เขามาเดินเล่นตรงนี้


ขั้นตอนมาตรฐานการรักษาฉุกเฉิน

ทีมรักษาพยาบาลสามารถให้ปฐมพยาบาลฉุกเฉินครบวงจรได้

ไม่ว่าจะเป็น การจัดการกรณีหมดสติ ขั้นตอนการส่งไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน

ทางศูนย์ก็ติดตั้งเครื่องมือช่วยชีวิตฉุกเฉินไว้ด้วย มีออกซิเจนและAMBU


ทางศูนย์ก็มีขั้นตอนการจัดการผู้ป่วย

พวกเราจะทำวิธีติดต่อหลายทางกับผู้ดูแลในครอบครัวและทีมแพทย์

ทางศูนย์ก็มีขั้นตอนการควบคุมโรคด้วย

อย่างวิกฤตโควิด-19ในครั้งนี้

พวกเราก็ส่งเสริมประชาสัมพันธ์การควบคุมโรค สอนวิธีล้างมือ วิธีใส่แมสให้ผู้สูงอายุ


ต่อมาคือส่วนที่สาม การวางแผนกิจกรรม

เป็นกลุ่มกิจกรรมที่ไม่ใช้ยาในการรักษา

เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถรักษาสมรรถภาพที่ดีที่สุดแม้ในภาวะโรคสมองเสื่อม

ชะลอการถดถอยของสมรรถภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา

กลุ่มกิจกรรมจะแบ่งเป็นกลุ่มปิดเล็กๆ


ผู้นำกิจกรรมต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกมาแล้ว

หรือให้อาสาสมัครมานำกิจกรรมก็ได้

ทุกระดับจะตั้ง12สัปดาห์เป็น1ระดับ

ทุกระดับจะตั้ั้งตารางคอร์สกิจกรรมและแจ้งให้ครอบครอบและผู้สูงอายุทราบ


กิจกรรมทุกครั้งก็จะทำหนังสือแผนกิจกรรม จดจำนวนคนที่เข้าร่วม

จดขั้นตอนกิจกรรม หลังจัดกิจกรรมแล้วก็ต้องทบทวนผลด้วย

เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงให้กับการออกแบบคอร์สในอนาคต

ในส่วนการจัดตารางครอบครัว

ระหว่างทำกิจกรรมก็จะจัดพื้นที่ให้ครอบครัวพักหายใจและแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

แล้วก็ให้หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพและการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมให้แก่ครอบครัวด้วย


นี่คือตารางคอร์สเรียนและหนังสือวางแผนกิจกรรม

พวกเราจะเขียนแนวคิดในการออกแบบและวิธีปฏิบัติ ผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร

ก็จะเขียนไปในแผนกิจกรรมด้วย


ต่อไปฉันจะพูดถึงเนื้อการวางแผนกิจกรรม

เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจะออกแบบกลุ่มกิจกรรมโรคสมองเสื่อมตามผลการประเมินที่ได้รับ

ทุกสัปดาห์จะออกแบบกิจกรรมที่ขยับตัวและไม่ขยับตัว

ออกแบบกิจกรรมหลายๆแบบ

อย่างเช่น มีงานบรรยายที่นั่งเฉยๆ มีบางกิจกรรมที่ต้องขยับตัว

คอร์สวาดรูปพู่กันที่ต้องขยับตัว คอร์สดนตรีหรือคอร์สที่เล่นเกมตามเทศกาล

เป้าหมายหลักก็คือลดการเสื่อมสมรรถภาพของผู้ป่วย

ไม่ว่าจะเป็นมนุษยสัมพันธ์ สมรรถภาพการรับรู้และสมรรถภาพร่างกาย

และคาดหวังให้ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตามเวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้


พวกเราออกแบบคอร์สเรียนที่หลากหลาย

ได้แก่คอร์สเสริมการรับรู้ อย่างเช่น การทำงานศิลปะ ออกกำลังกายสมอง

และยังมีคอร์สที่เสริมสร้างร่างกาย เช่น คลาสออกกำลังกาย

แล้วก็มีคอร์สที่เสริมมนุษยสัมพันธ์ เช่น คลาสทำสวน คลาสดนตรี


ต่อไปฉันจะแนะนำให้ทุกคนฟังทีละคอร์สนะคะ

ก่อนอื่นขอแนะนำคอร์สเสริมการรับรู้ก่อน

กิจกรรมทุกประเภทที่เสริมสร้างการคิดรับรู้ก็เป็นประเภทนี้หมด

พวกเราจะให้ไพ่ ลูกเต๋า รูปภาพและของในชีวิตประจำวัน

หรือทำสื่อการสอนเอง โปสเตอร์

เอามาทำเป็นเกม ออกแบบเป็นกิจกรรมเสริมการรับรู้

ไม่ว่าจะเป็นเกมจิ๊กซอว์ เกมคำนวน เกมเสริมการคิดวิเคราะห์ กิจกรรมรักการอ่าน ฯลฯ

หลักๆคือช่วยผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมให้ใช้สมอง ชะลอการถดถอยของสมรรถภาพ


นี่คือกิจกรรมให้ผู้ป่วยใช้แท่งไม้ที่สีและลักษณะไม่เหมือนกัน

ประกอบรูปร่างให้เหมือนกับรูปที่ให้ไป

แล้วก็สามารถประกอบรูปร่างที่ตัวอย่างประกอบได้ด้วย

พวกเราจะตั้งความยากง่ายของแต่ละคอร์สไม่เท่ากัน

ให้ผู้อาวุโสแต่ละระดับเล่นกัน

เดี๋ยวฉันจะเปิดคลิปการทำงานจริงให้ทุกท่านดูค่ะ


ต่อไปฉันจะแนะนำคลาสการสร้างสรรค์ทางศิลปะค่ะ

เป้าหมายคือให้ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกผ่านผลงานศิลปะ

ใช้อุปกรณ์ศิลปะต่างๆ เช่น สีไม้ สีน้ำ ใบไม้ ขวดน้ำฯลฯ

มาทำงานศิลปะตามฤดูกาล เทศกาลหรือแรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวัน

ผู้ป่วยสามารถวาด ลงสี ติดแปะและทำศิลปะทำมือ และวิธีอื่นๆ

กิจกรรมนี้ทำให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์

เกิดการกระตุ้นอวัยวะความรู้สึกต่างๆ

ทำให้ผู้ป่วยสามารถแสดงออกความคิดเห็น เพิ่มโอกาสแสดงออกของตัวเอง สร้างสรรค์และเพิ่มความรู้สึกสำเร็จ

นี่คือคาร์เนชั่นของเทศกาลวันแม่ค่ะ


พวกเรามาดูคลิปวีดีโอกันค่ะ

นี่คือภาพพิมพ์ใบไม้ที่ใช้สีน้ำค่ะ

ระหว่างที่ทำพวกเราจะแค่ให้กำลังใจให้ผู้ป่วยทำงานศิลปะเอง

พวกเราจะแค่ชี้นำผู้ป่วยเท่านั้น

ไม่เร่งผู้ป่วยให้ทำเร็วๆ

ต่อให้ผู้ป่วยทำได้ไม่ดีหรือทำไม่เสร็จ พวกเราก็จะชมให้กำลังใจผู้ป่วยค่ะ


ต่อมาขอแนะนำคลาสรำลึกความเก่า

เพราะผู้ป่วยโรคความจำเสื่อมจะมีความทรงจำในอดีตที่ลึกซึ้ง

เพราะฉะนั้นพวกเราจะให้ผู้ป่วยรำลึกความหลังผ่านประสบการณ์ชีวิตในอดีต

ใช้รูปถ่ายเก่า ภาพเก่า ภาพยนตร์เก่าหรือกิจกรรมดั้งเดิมในอดีตมาเป็นตัวชี้นำ

ใช้การรำลึกความหลัง การแบ่งปันเรื่องราวมายืนยันคุณค่าของตัวเอง

การให้ผู้สูงอายุมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตในอดีตซึ่งกันและกัน

จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแสดงออกด้วย

ในกลุ่มผู้ป่วยด้วยกันก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เคารพประสบการณ์ชีวิตของซึ่งกันและกัน

ระหว่างทำกิจกรรมหากผู้ป่วยพูดผิด พวกเราก็จะไม่ขัดเข้าไปแก้

เพราะเป้าหมายหลักของเราก็คือให้ผู้สูงอายุแสดงออก ให้พูดออกมาค่ะ


ต่อมาจะขอแนะนำคลาสดนตรี

ดนตรีสามารถเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นและชะลออาการโรคสมองเสื่อมได้

ปรบมือตามจังหวะง่ายๆหรือกิจกรรมเข้าจังหวะก็สามารถปลุกความทรงจำให้แก่ผู้ป่วย

อีกทั้งสามารถทำให้อารมณ์และการรับรู้ดีขึ้น สามารถลดอาการผิดปกติทางประสาทได้


พวกเราจะใช้วิธีทำกิจกรรม

โดยใช้การฟังดนตรี ร้องเพลงหรือโยกตัวตามจังหวะดนตรีและการเล่นเครื่องดนตรี

มาออกแบบเกมดนตรี อย่างเกมตีเคาะประกอบจังหวะ เป็นต้น

กิจกรรมแบบนี้จะสามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสในการฟัง การดูและการสัมผัสของพวกเขาได้

และยังสามารถกระตุ้นการใช้เหตุผล การปรับอารมณ์และความร่วมมือระหว่างกันได้ด้วย

ต่อไปจะให้ทุกท่านดูสถานการณ์จริงในศูนย์ค่ะ


ต่อไปคือคลาสออกกำลังกายค่ะ

การออกกำลังกายสามารถเพื่อความกระฉับกระเฉงในข้อต่อ เพิ่มความอดทนของหัวใจ และเสริมสร้างพละกำลังและควมอดทนในกล้ามเนื้อได้

ทำให้ผู้ป่วยสามารถมีความสมดุล สมาธิและความจำที่ดีขึ้น

พวกเราจะจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับกำลังกายชุดหนึ่ง

อย่างเช่น แอโรบิกง่ายๆหรือออกกำลังเสริมสุขภาพ

ก็สามารถช่วยรักษาสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้ป่วยโรคสมองเสริมได้แล้ว

อีกทั้งยังเสริมสร้างกำลังกายและทำให้สุขภาพสมองของพวกเขาแข็งแรง


ในส่วนของอารมณ์

ก็สามารถทำให้พวกเขาอารมณ์ดี ไม่ซึมเศร้า ร่าเริงแจ่มใส

และเสริมสร้างมนุษยสัมพันธ์และความมั่นใจในตัวเองด้วย

ต่อไปมาดูวีดีโอตอนทำกิจกรรมจริงในศูนย์กันค่ะ

ทุกท่านช่วยสังเกตดูผู้สูงอายุเหล่านี้

เขาสามารถคิดท่าเต้นได้เอง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมาก


ต่อมาคือคลาสทำสวน

นี่เป็นวิธีหนึ่งในการทำพืชเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

สนุกสนานไปกับกิจกรรมผ่านความหวังและดอกผลที่งดงาม

ช่วยเยียวยาทางจิตใจให้แก่ผู้ป่วย

การสัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าช่วยทำให้ผ่อนคลาย ลดความเครียดได้

เมื่อคนอยู่ท่ามกลางพืชไม้นานาพันธุ์ กล้ามเนื้อก็จะผ่อนคลาย ความรู้สึกกลัวก็จะน้อยลง

ทุกท่านมาดูวีดีโอกันค่ะ


ปกติเราจะเลือกต้นไม้ที่ตายยากให้ผู้ป่วยปลูก

เพื่อเพิ่มความรู้สึกสำเร็จให้แก่ผู้ป่วย

ต่อมาจะแนะนำแผนบริการดูแลเพื่อป้องกันและชะลออาการเสื่อมสมรรถภาพค่ะ

แผนนี้เน้นจากฐานชุมชนเป็นหลัก

และจะจัดคลาสและแผนการดูที่เหมาะสมตามระดับของผู้ป่วยด้วย

เนื้อหาแผนการดูแลจะมีกิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความสามารถในชีวิตประจำวัน การมีปฏิสัมพันธ์ในชุมชน

การรักษาสำเนียงการพูด การดูแลโภชนาการและเสริมสร้างการรับรู้ เป็นต้น

และจะใช้แผนที่ใช้ได้จริงก่อน

ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจอนุมัติก่อน

จะใช้แผนการดูแลได้เมื่อได้รับการประกาศจากแพลตฟอร์มจัดการทรัพยากรบริการดูแลป้องกันและชะลออาการเสื่อมสมรรถภาพของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ

หนึ่งคอร์สจะมี12สัปดาห์ หนึ่งครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งครั้งไม่เกินสองชั่วโมง

ผู้ป่วยที่เข้ารับการดูแลต้องไม่ซ้ำกัน

ผู้นำกิจกรรมของทุกครั้งต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการทดสอบแล้วเท่านั้น

ผู้นำกิจกรรมต้องผ่านการตรวจสอบและประกาศในเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการแล้ว

นอกจากนี้สามารถเพิ่มผู้ช่วยได้ตามขนาดของคลาสได้ด้วย


นี่คือแพลตฟอร์มข้อมูลที่ได้มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ

ในเว็บต้องมีแผนดูแลและคุณสมบัติของผู้นำกิจกรรมทั้งหมด

ก่อนเข้ารับการดูแลก็ต้องทำการทดสอบก่อน

และต้องทำการทดสอบอีกครั้งหลังจากทำกิจกรรมแล้ว12สัปดาห์

นี่คือKihon Checklist

ข้อ1ถึงข้อ5จะเป็นคำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างอิสระ

ข้อ6ถึงข้อ10จะเกี่ยวกับการออกกำลังกาย

ข้อ11ถึง12เกี่ยวกับโภชนาการ

ข้อ13ถึง14เกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์

ข้อ15ถึง17เกี่ยวกับปากและฟัน

ข้อ18ถึง20เกี่ยวกับอาการความจำเสื่อม ความทรงจำต่างๆ

ข้อ21ถึง25เกี่ยวกับอาการซึมเศร้าและอารมณ์

ส่วนนี้จิตแพทย์เฉินเหม่ยกุ้ยน่าจะเคยอธิบายไว้แล้ว


เชิญทุกท่านดูวีดีโอนี้กันค่ะ

เป็นการออกแบบกิจกรรมโดยการใช้เกม เช่น การแข่งขันหรือกิจกรรมที่ต้องใช้การร่วมมือเป็นทีม

มากระตุ้นความยินยอมและความอยากเข้าร่วมกิจกรรมของผู้ป่วย

ยังมีอีกวีดีโอค่ะ

อันนี้ใช้วัสดุข้างต้วที่หาใช้ง่าย

มาเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ความสมดุลและความยืดหยุ่นของแขนขาผู้ป่วยค่ะ


สุดท้ายนี้จะพูดถึงบริการนวัตกรรมดูแลผู้สูงอายุค่ะ

พวกเรามีบริการนวัตกรรมมากมาย

ได้แก่ คลาสอบรมผู้ดูแลชาวต่างชาติ การเข้าสังคมของผู้สูงอายุ ให้โอกาสฝึกงานแก่นักศึกษา

จัดค่ายประสบการณ์บริการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระดับปานกลางและร้ายแรงและแผนบริการนวัตกรรมความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย


นี่คือคลาสอบรมผู้ดูแลชาวต่างชาติ

ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมไต้หวันกว่า30เปอร์เซนต์ได้รับการดูแลจากผู้ดูแลชาวต่างชาติ

ศูนย์ของเรายินดีต้อนรับผู้ดูแลชาวต่างชาติ

พวกเราได้ออกแบบแผนการสอนตามภาษาแม่ของผู้ดูแล สอนให้วิธีดูแลและเทคนิคให้พวกเขา


นี่คือภาพผู้สูงอายุเข้าร่วมการแข่งขันโชว์ผมหงอกค่ะ

สิ่งที่พวกเราเน้นย้ำคือการมีปฏิสัมพันธ์ในชุมชน

นี่คือกิจกรรมขอบคุณผู้สูงอายุ

สนับสนุนให้ผู้ดูแลและผู้สูงอายุมีความสุขร่วมกัน

การใช้ผู้ป่วยให้เข้าร่วมในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่พวกเราเน้นยำมาโดยตลอด

เพราะการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นกายภาพบำบัดประเภทหนึ่ง

กิจกรรมในชีวิตประจำวันสามารถเสริมสร้างความรับรู้และกำลังกายของผู้สูงอายุได้

ดังนั้นพวกเราจะให้ผู้สูงอายุมาช่วยทำความสะอาดศูนย์บริการหลังจากเลิกเรียนแล้ว


พวกเราก็ใช้นักศึกษาเอกการดูแลระยะยาวมาฝึกงานที่นี่

เปิดค่ายประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนให้กับนักเรียนมัธยมปลาย

ได้รับเสียงตอบรับจากนักเรียนและผู้ปกครองดีมาก

และยังมีกลุ่มอาสาสมัครคริสต์ซงเหนียนที่จะมาทำการแสดงเป็นประจำ

ทางศูนย์มีพื้นที่สำหรับเรียนรู้และการแสดง

และด้วยเหตุนี้เองทางศูนย์จึงมีชีวิตชีวามาก

นี่คือภาพนักศึกษาที่มาฝึกงานค่ะ

นักศึกษาเล่นกับผู้สูงอายุอย่างสนุกสนาน ทอยลูกเต้ากันว่าใครได้แต้มมากกว่า


อันนี้เป็นภาพค่ายประสบการณ์บริการดูแลผู้สูงอายุของเด็กมัธยมปลายค่ะ

นักเรียนต่างรู้สึกว่ากิจกรรมนี้มีความหมายมาก

พอกลับบ้านไปก็จะเอาใจใส่และดูแลอากงอาม่าของตัวเองมากขึ้น

และผู้สูงอาวุโสก็จะมีกำลังวังชามากขึ้นเพราะได้เจอเด็กๆด้วย

นอกจากนี้ทางศูนย์ก็มีความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย ทำวิจัยนวัตกรรมกับมหาวิทยาลัย

นี่คือคอร์สเพาะเห็ดค่ะ

คุณครูมาแนะนำวิธีเพาะเห็ด แล้วผู้สูงอายุสามารถเข้าร่วมและเพาะเห็ดได้จริงๆ

ทุกอาทิตย์กลับบ้านไปก็สามารถบันทึกได้ว่าเห็ดโตแค่ไหนแล้ว

ในเวลาเดียวกันทางศูนย์ก็สามารถวิเคราะห์

ผลกระทบต่อการรับรู้ อาการซึมเศร้าและอารมณ์ด้านบวกและลบของผู้สูงอายุได้

เชิญทุกท่านดูคลิปค่ะ


นอกจากนี้ทางศูนย์ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยครูจางฮั่วพัฒนาซอฟท์แวร์ขึ้น

ซอฟท์แวร์จะฉายรูปภาพเก่าผ่านจอโทรทัศน์

ช่วยผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมรำลึกความหลัง

แล้วพวกเราก็จะสังเกตดูว่าสมองได้รับการกระตุ้นไหมจากการทำกิจกรรมนี้


ผู้ป่วยดูรูปถ่ายเก่าแล้วเลือกหัวข้อที่สนใจ

อย่างเช่น เลือกของเล่นในวัยเด็ก แล้วให้ผู้ป่วยเล่าเรื่องราวและพวกเราก็จะบันทึกเรื่องราวเหล่านั้น

เป้าหมายของแอพพลิเคชั่นนี้ก็คือทำให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการรับรู้

รำลึกถึงความหลังและสร้างเสริมการรับรู้และการเรียนรู้ผ่านเกมรำลึกอดีต


นอกจากนี้พวกเรายังได้ร่วมมือกับแพทย์แผนจีนเปิดแผนบริการนวัตกรรมชะลออาการโรคสมองเสื่อมด้วย

ในอนาคตนายแพทย์หวงผู้อำนวยการแพทย์แผนจีนก็จะมาแนะนำแผนนี้ให้ทุกคนฟังค่ะ

ในช่วงหลายปีนี้ผู้สูงอายุในสวนความจำหรรษาทำให้พวกเราเห็นว่า

หลังจากที่ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมที่จัดให้แล้ว สมรรถภาพร่างกายของพวกเขาก็ค่อยๆดีขึ้น

เดิมทีเป็นผู้ป่วยที่นั่งเก้าอี้วีลแชร์ ตอนนี้ก็สามารถจับวีลแชร์เดินได้แล้ว

อัตราการเข้าร่วมกิจกรรมก็มากขึ้น

และสมาธิของพวกเขาก็ดีขึ้นด้วย

มนุษยสัมพันธ์ดีขึ้น การแสดงออก การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

และอารมณ์ก็ดีขึ้นหมด เสียงหัวเราะก็มากขึ้นด้วย

ครอบครัวก็บอกว่าอาการทางประสาทที่บ้านก็น้อยลงมาก


จากความพึงพอใจของคอร์สเรียนจะเห็นได้ว่า

ระดับความสนใจต่อกิจกรรมที่จัดของผู้สูงอายุในศูนย์

พอใจมากมีถึง78% พอใจมี18%

ศูนย์ของพวกเราได้กลายเป็นมาตรฐานของการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมแล้ว

มีหน่วยงานมากมายมาแลกเปลี่ยนความรู้กับทางศูนย์

หนึ่งในนั้นมีกลุ่มเจ้าหน้าที่จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่มาแลกเปลี่ยนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา


สุดท้ายช่วงสรุป

ปัจจุบันไม่มีวิธีรักษาโรคสมองเสื่อม

แต่ไม่มีวิธีรักษาไม่ได้แปลว่าไม่มีวิธีดูแลหรือวิธีบรรเทารักษา

พวกเราควรจะเน้นดูที่สมรรถภาพที่เหลือของผู้สูงอายุ

มากกว่าที่จะเน้นดูโรคภัยต่างๆที่เขามีอยู่

การออกกำลังกายเป็นวิธีชะลอและป้องกันโรคสมองเสื่อมที่ดีที่สุด

การมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุด

ขั้นตอนสำคัญกว่าผลลัพธ์

ถ้ามีสภาพแวดล้อมที่ไร้อุปสรรคหรือให้อุปกรณ์ช่วยที่ถูกต้อง

ก็สามารถลดอุปสรรคการเดินของผู้ป่วยได้

พอไม่มีอุปสรรคแล้วก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆได้มากขึ้น

ผู้สูงอายุต้องการกำลังใจมาก ต้องการความรู้สึกสำเร็จมาก

ที่สำคัญที่สุดคือการมีส่วนร่วมของสมาชิกครอบครัวที่ดูแลเขา

ส่วนนี้มีความสำคัญต่อผู้สูงอายุมาก


เป้าหมายสุดท้ายของพวกเราก็คือให้ชราลงในบ้าน และเป็นการชราที่มีกำลังวังชา

ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในงานดูแลผู้สูงอายุ

การบรรยายในวันนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่รับฟัง